pattern

OpenVPN คืออะไร ทำงานอย่างไรและเหมาะกับใคร?

     53

pattern

what-is-openvpn-and-how-it-works

ในยุคที่การใช้งานอินเทอร์เน็ตเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์จึงกลายเป็นสิ่งสำคัญ OpenVPN คือหนึ่งในชื่อที่ผู้ใช้งาน VPN จะคุ้นเคยกันดีในฐานะ โปรโตคอล VPN ที่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยระดับสูง แต่แท้จริงแล้ว OpenVPN มีจุดเด่นและข้อควรพิจารณาอย่างไรบ้าง พี่วัวจะมาเจาะลึกไปพร้อมกัน

OpenVPN คืออะไร 

OpenVPN คือโปรโตคอลการสื่อสารแบบ Open-source ที่ใช้สำหรับสร้างการเชื่อมต่อเครือข่ายส่วนตัวเสมือน หรือ VPN ที่มีความปลอดภัยสูง และสามารถกำหนดค่าได้หลากหลาย สิ่งที่ทำให้ OpenVPN แตกต่างจากโปรโตคอลอื่น ๆ คือการเป็น Open-source ซึ่งหมายความว่าโค้ดหลักของโปรโตคอลนี้เปิดเผยสู่สาธารณะเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทั่วโลกสามารถตรวจสอบและแก้ไขข้อบกพร่องได้ตลอดเวลา

บางคนอาจมองว่าคำว่า “Open” หรือเปิดเผย อาจดูไม่ปลอดภัยสำหรับเครื่องมือที่เน้นความเป็นส่วนตัว แต่ในทางกลับกัน นี่คือข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะหากมีช่องโหว่ใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย ระบบคอมมูนิตี้ผู้เชี่ยวชาญจะสามารถตรวจพบและแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ OpenVPN กลายเป็นหนึ่งใน โปรโตคอล VPN ที่เชื่อถือได้และปลอดภัยที่สุดในตลาด โดยเฉพาะเมื่อทำงานร่วมกับอัลกอริทึมการเข้ารหัสที่ทันสมัย

OpenVPN ทำงานอย่างไร 

OpenVPN สร้างอุโมงค์ (Tunnel) ที่เข้ารหัสข้อมูลทั้งหมดของคุณก่อนที่จะส่งออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ VPN ซึ่งจะทำให้ข้อมูลของคุณปลอดภัยจากการสอดแนม โดยจะใช้เทคโนโลยี TLS/SSL (Transport Layer Security/Secure Sockets Layer) ในการสร้างและรักษาความปลอดภัยของการเชื่อมต่อ รวมถึงการเข้ารหัสข้อมูลที่ใช้มาตรฐาน AES-256 ซึ่งเป็นระดับเดียวกับที่สถาบันการเงินและหน่วยงานรัฐบาลใช้

ด้านความปลอดภัยของ OpenVPN

OpenVPN ถือเป็นโปรโตคอลที่มีความปลอดภัยสูงมาก โดยรองรับการเข้ารหัสหลายแบบ เช่น AES-256, RSA และ SHA ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับองค์กร นอกจากนี้ยังรองรับการยืนยันตัวตนด้วยหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Certificate เฉพาะ Username/Password หรือ TLS-auth ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าการเชื่อมต่อมีความปลอดภัยอย่างเต็มที่

ด้านความเร็วของ OpenVPN 

ในด้านความเร็ว OpenVPN มีสองโหมดหลักให้เลือกใช้ คือ UDP (User Datagram Protocol) และ TCP (Transmission Control Protocol)

OpenVPN UDP และ TCP คืออะไร?

OpenVPN UDP

โหมดนี้จะให้ความเร็วที่สูงกว่า เหมาะสำหรับกิจกรรมที่ต้องการความลื่นไหลเป็นพิเศษ เช่น การดูวิดีโอแบบสตรีมมิ่ง หรือการเล่นเกมออนไลน์ที่ต้องการ Ping ต่ำ อย่างไรก็ตาม การเชื่อมต่อในโหมด UDP อาจมีโอกาสเกิดความผิดพลาดของข้อมูลได้บ้างเล็กน้อย

OpenVPN TCP

แม้จะมีความเร็วที่ช้ากว่าเล็กน้อย แต่โหมดนี้มีความเสถียรมากกว่า เนื่องจากจะมีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทุกครั้ง ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลจะถูกส่งถึงปลายทางอย่างสมบูรณ์ เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น การดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่ หรือการท่องเว็บไซต์ที่ต้องการความน่าเชื่อถือสูง

แม้ว่า OpenVPN จะขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัย แต่ความเร็วในการเชื่อมต่ออาจไม่ได้เร็วที่สุดเมื่อเทียบกับโปรโตคอลรุ่นใหม่ ๆ อย่าง โปรโตคอล WireGuard หรือ โปรโตคอล IKEv2 ความเร็วของ OpenVPN ยังขึ้นอยู่กับโหมดที่เลือกใช้งานดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้น ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลือกโหมดที่เหมาะสมกับการใช้งานของตนเองได้

ข้อดี-ข้อเสียของ OpenVPN 

ข้อดีของ OpenVPN 

  • ความปลอดภัยสูง ด้วยการเป็น Open-source และการใช้การเข้ารหัสระดับองค์กร ทำให้ OpenVPN เป็นหนึ่งในโปรโตคอลที่ปลอดภัยที่สุด
  • รองรับทุกแพลตฟอร์ม สามารถใช้งานได้บนระบบปฏิบัติการหลักทั้งหมด เช่น Windows, macOS, Android และ iOS
  • ทะลุบล็อกได้ดี สามารถกำหนดค่าให้ทะลุบล็อกการเชื่อมต่อในประเทศที่จำกัดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อเสียของ OpenVPN

  • ความเร็วค่อนข้างช้า เมื่อเทียบกับโปรโตคอลรุ่นใหม่ ๆ แล้ว OpenVPN อาจมีความเร็วที่ต่ำกว่า

OpenVPN เหมาะกับใคร 

  • ผู้ที่ต้องการ VPN ที่ปลอดภัยสูงที่สุด
  • ผู้ที่อยู่ในประเทศที่มีการบล็อกอินเทอร์เน็ตอย่างเข้มงวด เนื่องจาก OpenVPN สามารถทะลุบล็อกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • องค์กรที่ต้องการความมั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูล

เปรียบเทียบ OpenVPN และโปรโตคอลตัวอื่นๆ 

OpenVPN มักถูกนำไปเปรียบเทียบกับ โปรโตคอล WireGuard และ โปรโตคอล IKEv2 อยู่บ่อยครั้ง โดยแต่ละโปรโตคอลต่างมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป

โปรโตคอล

ความปลอดภัย

ความเร็ว

การทะลุบล็อก

รองรับอุปกรณ์

เหมาะกับใคร

OpenVPN

สูงมาก

ช้า

ดีมาก

ครบทุกระบบ

 

ฟีเจอร์ครบ

ทะลุบล็อกแบบยากๆ

IKEv2

สูง

ปานกลาง

ดี

ครบทุกระบบ

ต้องการความเร็ว

และความปลอดภัย

WireGuard

สูง

เร็วที่สุด

ดี

ครบทุกระบบ

คนที่ต้องการ ความเร็ว

เล่นเกม สตรีมวิดีโอ

โปรโตคอล OpenVPN เน้นความปลอดภัยสูงสุด และมีความสามารถในการทะลุบล็อกอินเทอร์เน็ตได้ดีเยี่ยม ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นคงในการเชื่อมต่อในประเทศที่จำกัดการเข้าถึง

โปรโตคอล IKEv2  โดดเด่นเรื่องความเร็ว และความเสถียร ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานบนมือถือหรืออุปกรณ์พกพาที่ต้องเปลี่ยนเครือข่ายบ่อย ๆ

โปรโตคอล WireGuard คือโปรโตคอลน้องใหม่ที่เน้นความเร็วเป็นพิเศษ ด้วยโค้ดที่มีขนาดเล็ก ทำให้มีประสิทธิภาพสูงและกินทรัพยากรน้อยกว่า

ถ้าจะสรุปสั้น ๆ คือ OpenVPN เน้นความปลอดภัยและการทะลุบล็อก IKEv2 เป็นโปรโตคอลที่เน้นความเสถียรและความคล่องตัว ส่วน WireGuard เน้นความเร็วสูงสุดนั่นเอง หากคุณต้องการ VPN ที่ปลอดภัยและทะลุบล็อกได้ดี โปรโตคอล OpenVPN คือคำตอบที่ใช่ที่สุด

FAQ 

BullVPN มีโปรโตคอล OpenVPN ไหม?

BullVPN ให้บริการ OpenVPN เพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุดแก่ผู้ใช้งานใช้บนระบบ

OpenVPN ใช้กับ VPN ฟรีได้หรือไม่?

ใช้ได้แต่ไม่แนะนำให้ใช้ เนื่องจาก OpenVPN ในบริการ VPN ฟรีส่วนใหญ่มักจะขาดการตั้งค่าที่ปลอดภัยอย่างเหมาะสม อาจทำให้ประสิทธิภาพและความปลอดภัยลดลงอย่างมาก

การใช้งาน OpenVPN จะทำให้การเชื่อมต่อช้าลงหรือไม่?

การใช้งาน OpenVPN จะทำให้การเชื่อมต่อช้าลงเล็กน้อย เนื่องจากต้องใช้เวลาในการเข้ารหัสและถอดรหัสข้อมูล แต่ความเร็วที่ลดลงจะแตกต่างกันไปตามโหมดที่ใช้งาน (TCP/UDP) และความเร็วอินเทอร์เน็ตเริ่มต้นของคุณ

hide-your-ip-address
หากคุณกำลังมองหา VPN ที่ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลายรูปแบบ BullVPN คือตัวเลือกที่ใช่ ด้วยโปรโตคอลยอดนิยมอย่าง OpenVPN, IKEv2 และ WireGuard ทำให้คุณสามารถเลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรือปลดล็อกเว็บไซต์ที่ถูกบล็อก BullVPN ก็พร้อมมอบประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นและปลอดภัยให้คุณ