pattern

การเปลี่ยน DNS กับ การใช้ VPN ต่างกันอย่างไร

     240

pattern

What-is-the-Difference-Between-DNS-and-VPN

การใช้งานอินเทอร์เน็ตกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในโลกออนไลน์จึงกลายเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม หลายคนมองหาเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัย หรือข้ามข้อจำกัดในการเข้าถึงเว็บไซต์ ซึ่ง ISP บางเจ้าได้มีการบล็อกบางเว็บไซต์ และทางเลือกที่ได้รับความนิยมคือการเปลี่ยน DNS และการใช้ VPN แต่ด้วยลักษณะการทำงานที่คล้ายกันในบางจุด ทำให้ผู้ใช้จำนวนไม่น้อยยังคงสับสนว่า DNS กับ VPN คืออะไร และควรเลือกใช้แบบไหนดี จึงจะเหมาะกับการใช้งานของตัวเอง

DNS คืออะไร?

DNS หรือ Domain Name System คือระบบที่ทำหน้าที่แปลงชื่อเว็บไซต์ที่เราใช้งานในชีวิตประจำวัน เช่น google.com ให้กลายเป็นหมายเลข IP address ที่คอมพิวเตอร์ใช้ในการติดต่อสื่อสารกัน เช่น 142.250.200.14 โดยเมื่อเราพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ลงในเบราว์เซอร์ อุปกรณ์จะส่งคำขอไปยังเซิร์ฟเวอร์ DNS เพื่อขอทราบ IP ที่ตรงกับชื่อโดเมนนั้น แล้วจึงเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ปลายทางได้อย่างถูกต้อง ซึ่งกระบวนการนี้เกิดขึ้นในเวลาเพียงเสี้ยววินาที และเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้เราสามารถท่องเว็บได้อย่างสะดวก

  • IP Address คือรหัสตัวเลขที่คอมพิวเตอร์ใช้ในการสื่อสารกัน
  • Domain Name คือชื่อเว็บไซต์ที่มนุษย์เข้าใจและจดจำได้ง่าย เช่น google.com, bullvpn.com

How-DNS-works

การเปลี่ยน DNS ช่วยอะไรได้บ้าง

ตัวอย่างของการเปลี่ยน DNS ที่นิยมใช้กัน คือการเปลี่ยนจาก DNS ของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) มาใช้ DNS สาธารณะที่มีความเร็วหรือความปลอดภัยมากกว่า เช่น เปลี่ยนไปใช้ Google DNS โดยตั้งค่า DNS เป็น 8.8.8.8 และ 8.8.4.4 หรือเลือกใช้ Cloudflare DNS ที่เน้นความเป็นส่วนตัว โดยตั้งเป็น 1.1.1.1 และ 1.0.0.1 การเปลี่ยน DNS สามารถทำได้ง่ายทั้งในมือถือ คอมพิวเตอร์ เพื่อให้ทุกอุปกรณ์ในเครือข่ายใช้งาน DNS ใหม่ได้ สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการข้ามข้อจำกัดในการเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกบล็อกในบางประเภทได้

  • ใช้งานง่ายและฟรี
  • แก้ปัญหาเน็ตช้า/เข้าเว็บไม่ได้บางเว็บ
  • เข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกบล็อกได้บางส่วน

VPN คืออะไร?

VPN หรือ Virtual Private Network คือเครือข่ายส่วนตัวเสมือนที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัยและเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดย VPN จะสร้าง "อุโมงค์เข้ารหัส" ระหว่างอุปกรณ์ของผู้ใช้กับเซิร์ฟเวอร์ปลายทาง ทำให้ข้อมูลทั้งหมดที่ส่งผ่านถูกป้องกันจากการดักจับหรือสอดแนม นอกจากนี้ VPN ยังสามารถซ่อนหมายเลข IP จริงของผู้ใช้ ทำให้สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกบล็อกตามภูมิภาคได้

หลักการทำงานของ VPN

หลักการทำงานของ VPN คือการสร้าง “อุโมงค์เข้ารหัส” (Encrypted Tunnel) ระหว่างอุปกรณ์ของผู้ใช้กับเซิร์ฟเวอร์ VPN ซึ่งทำหน้าที่ส่งต่อข้อมูลทั้งหมดไปยังเว็บไซต์ปลายทาง โดยข้อมูลทั้งหมดที่วิ่งผ่าน VPN จะถูกเข้ารหัส ทำให้บุคคลภายนอก เช่น ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) หรือแฮกเกอร์ ไม่สามารถดักจับหรือรู้ได้ว่าผู้ใช้กำลังเข้าชมเว็บไซต์อะไร หรือส่งข้อมูลอะไรอยู่

How-does-a-VPN-work

หากเปรียบเทียบกับ DNS ซึ่งทำหน้าที่เพียงแค่แปลงชื่อเว็บไซต์เป็น IP โดยไม่มีการเข้ารหัสใดๆ ข้อมูลยังคงถูกส่งผ่าน ISP ตามปกติ ผู้ให้บริการจึงยังเห็นว่าเราเข้าเว็บไซต์อะไร ต่างจาก VPN ที่ปกปิดทั้งเส้นทางและปลายทางการเชื่อมต่อ รวมถึงซ่อน IP ของผู้ใช้ด้วย

เปรียบเทียบการใช้ DNS vs VPN

ตารางเปรียบเทียบการใช้งานระหว่าง DNS กับ VPN แตกต่างกันอย่างไร

 

DNS

VPN

🔒 ความปลอดภัย

ไม่มีการเข้ารหัสข้อมูล

ข้อมูลถูกเข้ารหัส ปลอดภัยกว่า

🕵️‍♂️ ความเป็นส่วนตัว

ISP ยังเห็นเว็บไซต์ที่เข้าใช้งานได้

ซ่อน IP และซ่อนกิจกรรมออนไลน์จาก ISP และบุคคลภายนอก

🌐 การข้ามเว็บที่ถูกบล็อก

ข้ามการบล็อกได้บางเว็บไซต์

ข้ามได้เกือบทุกเว็บ รวมถึงเว็บต่างประเทศหรือเว็บที่จำกัดโซน

🔧 การตั้งค่าใช้งาน

ต้องเข้าไปตั้งค่าเปลี่ยนตัวเลข DNS ในมือถือหรือคอม

เลือกเซิร์ฟเวอร์ และกดเชื่อมต่อ

👥 เหมาะกับใคร

ผู้ใช้ทั่วไป ที่ต้องการการเข้าเว็บที่ถูกบล็อก

ผู้ใช้ที่ต้องการความปลอดภัย ข้ามบล็อก และการใช้งานที่ง่าย

 

DNS vs VPN แบบไหนดีกว่า

การเปลี่ยน DNS อาจจะดูเป็นทางเลือกที่ง่าย และตั้งค่าได้รวดเร็ว แต่หากพิจารณาในเรื่องของความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และความสามารถในการข้ามข้อจำกัดต่าง ๆ แล้ว การใช้งาน VPN ยังเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าชัดเจน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานเข้าถึงคอนเทนต์จากต่างประเทศ เข้าเว็บไซต์ที่ถูกบล็อกในประเทศ หรือไม่ต้องการให้ใครติดตามพฤติกรรมบนโลกออนไลน์ของตนเอง VPN จะช่วยเข้ารหัสข้อมูลทั้งหมด ซ่อน IP จริง และปกป้องผู้ใช้จากการถูกดักจับข้อมูล ซึ่งต่างจาก DNS ที่ทำหน้าที่เพียงแค่แปลงชื่อเว็บไซต์เป็น IP address โดยไม่มีระบบป้องกันหรือเข้ารหัสข้อมูลใด ๆ ระหว่างทาง

What-is-the-Difference-Between-DNS-and-VPN

สรุปการเปลี่ยน DNS กับ การใช้ VPN

สรุปแล้วการเปลี่ยน DNS และการใช้ VPN ต่างก็มีประโยชน์ในด้านของการเข้าถึงเว็บที่ถูกบล็อก แต่ถ้าพูดถึงเรื่องของความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และการข้ามข้อจำกัดต่าง ๆ แล้ว VPN ก็ยังเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะ VPN ช่วยให้ข้อมูลถูกเข้ารหัส ปกปิด IP และป้องกันไม่ให้ใครติดตามการใช้งานของคุณได้ ซึ่งต่างจาก DNS ที่เน้นความเร็วแต่ไม่มีการป้องกันข้อมูล และหากมองหา VPN ใช้งานง่าย ปลอดภัย และตอบโจทย์ทุกการใช้งาน BullVPN มีเซิร์ฟเวอร์ให้บริการมากกว่า 300 เซิร์ฟเวอร์ใน 49 ประเทศทั่วโลก สามารถปกปิด IP อย่างเป็นส่วนตัว เข้าถึงเว็บไซต์ที่ต้องการได้ทุกที่ ทุกเวลา รองรับทั้งมือถือ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อื่น ๆ ใช้ได้ไม่จำกัดความเร็ว จะดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรือเล่นเว็บต่างประเทศ ก็ทำได้อย่างสบายใจตลอดการใช้งาน