จีนนับเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าท่องเที่ยวมากที่สุดในโลกประเทศหนึ่งเลยสำหรับการท่องเที่ยวปี 2025 นี้ จะเห็นได้จากในโซเชียลว่าปี 2025 นี้คนไปเที่ยวจีนเยอะขึ้นมากๆ แต่การเชื่อมต่อโลกออนไลน์ในจีนอาจไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะหลายแอปที่เราใช้ประจำอาจจะ "ใช้งานไม่ได้ในจีน"
บทความนี้จะพาคุณไปรู้ว่าแอปไหนถูกบล็อกและทำไม “VPN” คือสิ่งที่ควรเตรียมไว้ก่อนบินไปจีนกัน…👲
แอปยอดฮิตที่ใช้งานไม่ได้ในจีนปี 2025🧱
1. Facebook / Messenger
ถูกบล็อกตั้งแต่ปี 2009 หลังเกิดเหตุจลาจลในเขตซินเจียง รัฐบาลจีนอ้างว่า Facebook ถูกใช้เป็นช่องทางในการสื่อสารและนัดชุมนุม จึงสั่งปิดการเข้าถึงรวมไปถึงทุกแพลตฟอร์มที่เป็นของ Facebook ด้วย
2. Instagram
ถูกบล็อกใน ปี 2014 ในช่วงการประท้วงที่ฮ่องกง รูปและวิดีโอจากเหตุการณ์ต่างๆ ถูกแชร์บน Instagram อย่างกว้างขวาง จีนจึงบล็อกเพื่อควบคุมเนื้อหา
3. Twitter (X)
ถูกบล็อกตั้งแต่ปี 2009 รัฐบาลมองว่า Twitter หรือปัจจุบันคือ X เป็นแหล่งข้อมูลข่าวสารที่ควบคุมไม่ได้ และถูกใช้เพื่อกระจายแนวคิดขัดแย้งกับรัฐบาล
4. TikTok
ไม่ได้ถูกบล็อกแบบเป็นทางการ แต่ไม่สามารถใช้งานได้ในจีนแผ่นดินใหญ่ เพราะจีนมีแอป "Douyin" ซึ่งเป็นเวอร์ชันของ TikTok สำหรับภายในประเทศที่ถูกควบคุมเนื้อหาโดยรัฐ
5. LINE

ถูกบล็อกประมาณปี 2015 เพราะไม่ใช่แอปของจีน ไม่มีการควบคุมตามนโยบายท้องถิ่นและนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวญี่ปุ่น/เกาหลี/ไทย
6. Google
เริ่มต้นในปี 2010 และบล็อกเต็มรูปแบบในปี 2014 เพราะ Google ปฏิเสธที่จะกรองผลการค้นหาตามคำสั่งของรัฐบาล บริการทั้งหมดของ Google ( Gmail / Maps / YouTube / Drive / Translate) จึงถูกบล็อกเพื่อจำกัดการเข้าถึงข้อมูล
7. Netflix
ไม่ให้บริการในจีนตั้งแต่แรก เพราะไม่ผ่านระบบเซ็นเซอร์ของจีนและไม่มีการอนุญาตเนื้อหาภายในประเทศจีน
8. Spotify
ไม่เปิดให้บริการโดยตรงในจีน เพราะจีนมีแพลตฟอร์มเพลงท้องถิ่น เช่น QQ Music, NetEase Cloud Music ซึ่งรัฐบาลควบคุมเนื้อหาได้
9. Reddit
ถูกบล็อกปี 2018 เพราะเป็นชุมชนเปิดที่มีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์จีนและโพสต์ทางการเมืองจำนวนมาก
ทำไมแอปเหล่านี้ถึงถูกบล็อก?🔍
จีนมีนโยบายเข้มงวดด้านการควบคุมข้อมูล ข่าวสาร และเนื้อหาออนไลน์ เพื่อความมั่นคงทางสังคมและการเมือง หลายแอปจากต่างประเทศถูกมองว่า “ไม่สามารถควบคุมได้” จึงถูกแบนทั้งหมด
นักท่องเที่ยวได้รับผลกระทบยังไงบ้าง?🚧
- ผู้ใช้ไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาจากต่างประเทศ
- ข้อมูลบางอย่างถูกจำกัดหรือดัดแปลง
- นักท่องเที่ยวที่ไม่เตรียมตัวจะ "ตัดขาด" จากโลกภายนอกทันทีที่ถึงจีน
- สื่อสารกับครอบครัวไม่ได้ (เพราะใช้ LINE หรือ Messenger)
- หาเส้นทางไม่ได้ (Google Maps ใช้ไม่ได้)
- หารีวิวร้านอาหาร/สถานที่ไม่ได้
- เข้าถึงอีเมล/งานไม่ได้ (Gmail ถูกบล็อก)
- ไม่สามารถแชร์ประสบการณ์ผ่านโซเชียลได้ตามปกติ
BullVPN คืออะไร และช่วยยังไง?🛡️
BullVPN เป็นบริการ VPN สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตอย่างอิสระแม้อยู่ในประเทศที่มีการจำกัดการใช้งาน เช่น “จีน”
เมื่อใช้ BullVPN คุณสามารถ..
- เปลี่ยนตำแหน่งของอุปกรณ์ให้เหมือนอยู่ในต่างประเทศ (เช่น ไทย, ญี่ปุ่น, สหรัฐฯ ฯลฯ)
- เข้าถึงแอปที่ถูกบล็อคในจีน เช่น LINE, Google, Facebook, Gmail ฯลฯ
- ใช้งานได้ทั้งบน Windows, macOS, iOS, Android และ Chrome Extension
- ปลอดภัยด้วยระบบเข้ารหัสข้อมูล ไม่ต้องกลัวถูกสอดแนมหรือดักข้อมูลบน Wi-Fi สาธารณะ
✅ สมัครใช้งานได้ที่: https://www.bullvpn.com/th/signup
ข้อควรรู้ก่อนใช้ BullVPN ในจีน⚠️
- ติดตั้ง BullVPN ก่อนเดินทางไปจีน เพราะเมื่อไปถึงจีนแล้วจะไม่สามารถดาวน์โหลดแอปจาก App Store หรือ Play Store ได้
- ดาวน์โหลด BullVPN : https://www.bullvpn.com/th/setup
- แนะนำให้สมัครและซื้อแพ็กเกจการใช้งานไว้เลยเพื่อความสะดวกในการใช้งานเมื่อไปถึง
- ควรเลือกเซิร์ฟเวอร์ให้เหมาะสม (เช่น เซิร์ฟเวอร์ไทย/สิงคโปร์/ญี่ปุ่น) เพื่อการใช้งานที่เสถียรที่สุด
- BullVPN มีทีมซัพพอร์ตคนไทยคอยให้บริการ หากมีปัญหาการเชื่อมต่อในจีนสามารถสอบถามได้ทันที
- แม้การใช้ VPN ในจีนจะอยู่ใน “พื้นที่สีเทา” แต่ BullVPN ได้รับความนิยมจากผู้ใช้จริงทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะคนที่ต้องเดินทางไปจีนบ่อยๆ ไร้กังวัลได้เลย
หากคุณกำลังวางแผนจะไปจีนในปี 2025 อย่าลืมเตรียมพร้อมเรื่องการใช้งานอินเทอร์เน็ต แอปหลายตัวที่ใช้ในชีวิตประจำวันอาจ “หายไปทันที” เมื่อถึงจีน และ VPN คือทางออกง่ายๆ ที่ทำให้คุณยังคงเชื่อมต่อโลกได้เหมือนเดิม🌏🐮🩵