AI เก็บข้อมูลเราไหม ใช้อย่างไรไม่ให้ข้อมูลหลุด

ในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนวิถีชีวิตของเราอย่างรวดเร็ว คำว่า AI (Artificial Intelligence) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ กลายเป็นคำที่เราได้ยินทุกวัน ไม่ว่าจะบนโซเชียลมีเดีย ในข่าว หรือแม้แต่ตอนทำงาน หลายคนเริ่มใช้เครื่องมือ AI เพื่อช่วยเขียนบทความ ตอบอีเมล วางแผนงาน หรือสร้างคอนเทนต์อัตโนมัติ แต่คำถามที่หลายคนสงสัยคือ AI เก็บข้อมูลเราไหม? มีวิธีไหนป้องกันข้อมูลหลุดได้บ้าง บทความนี้พี่วัวมี 5 วิธีใช้งาน AI อย่างไรให้ไม่เสี่ยงข้อมูลหลุดมาแนะนำ เพื่อให้คุณใช้ AI ได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้นในยุคที่คนส่วนใหญ่เริ่มให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูลส่วนตัวของตัวเองมากขึ้น ก่อนอื่นไปทำความรู้จัก AI ให้มากขึ้นกว่าเดิมกันดีกว่า 

AI คืออะไร และทำอะไรได้บ้าง?

AI คือเทคโนโลยีที่ทำให้คอมพิวเตอร์ คิด วิเคราะห์ และตัดสินใจ  ได้อัตโนมัติ โดยอิงจากข้อมูลที่ได้รับมา ปัจจุบัน AI พัฒนาไปไกลมาก ทั้งด้านภาษา รูปภาพ เสียง และวิดีโอ ซึ่งช่วยลดภาระงานซ้ำๆ และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับมนุษย์ได้อย่างมากเลยทีเดียว เล่าแค่นี้อาจจะยังไม่ค่อยเห็นภาพพี่วัวจะยกตัวอย่างให้ดู

ตัวอย่างการใช้งาน AI 

• AI ด้านการเขียนและตอบคำถาม เช่น ChatGPT, Claude, Gemini ช่วยสร้างคอนเทนต์ บทความ  แปลภาษา ตอบคำถามทั่วไป ในหมวดนี้พี่วัวว่าหลายๆคนอาจจะเคยได้ลองใช้งานกันบ้างแล้ว หรือใครยังไม่เคย ก็ลองเล่นดูคลายเหงาได้นะ 
• AI ด้านการออกแบบ เช่น Midjourney, Canva AI ช่วยสร้างภาพ ออกแบบโลโก้ หรือ ภาพประกอบ ตัวช่วยให้งานสร้างภาพไม่เป็นเรื่องยากอีกต่อไปถ้าลองให้ AI ช่วย ออกแบบ
• AI ด้านเสียงและวิดีโอ เช่น ElevenLabs, Runway ML ช่วยตัดต่อวิดีโอ สังเคราะห์เสียง หรือทำคลิปพรีเซนต์แบบมือโปร
• AI เพื่อการเรียนรู้ เช่น Perplexity AI, Notion AI ช่วยสรุปบทเรียน ค้นคว้าข้อมูล และจัดระเบียบความคิด

สำหรับคนทำงานสายดิจิทัล นักเรียน นักศึกษา หรือฟรีแลนซ์ AI ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นได้ ทั้งลดเวลา เพิ่มคุณภาพงาน และช่วยให้คุณโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญอื่นๆได้มากขึ้น 

แน่นอนว่าหลายๆคนอยากลองใช้งานเครื่องมือ AI แต่ก็ต้องเกิดความสงสัยว่าเจ้า AI เก็บข้อมูลของเราไหม แล้วจะนำข้อมูลเราไปเผยแพร่หรือเปล่า พี่วัวหาคำตอบมาให้แล้ว ตามไปดูหัวข้อถัดไปกันเลย 

AI เก็บบันทึกข้อมูลเราไหม 

ไม่ว่าจะเป็นแชทบอท เสิร์ชเอนจิน หรือผู้ช่วยอัจฉริยะต่าง ๆ มีการเก็บข้อมูลของเราหรือไม่  หลายคนอาจเคยคิดว่า "AI รู้เรื่องเราได้ยังไง?" หรือ "ข้อมูลที่เราพิมพ์ไป AI เก็บไว้ไหม?"  คำตอบคือ ใช่ AI เก็บข้อมูลของเรา แต่จะเก็บมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้งานแบบไหน และผู้ให้บริการ AI นั้นมีนโยบายความเป็นส่วนตัวยังไงบ้าง 

เหตุผลที่ AI ต้องเก็บข้อมูล ก็เพื่อเรียนรู้และพัฒนา ให้ตอบคำถามหรือช่วยเหลือเราได้แม่นยำขึ้นนั่นเอง 

AI เก็บข้อมูลอะไรจากเราบ้าง? 

การเรียนรู้จากข้อมูลจำนวนมหาศาล ซึ่งรวมถึงข้อมูลที่มาจากผู้ใช้ด้วย โดยทั่วไปแล้ว AI มักเก็บข้อมูลในผู้ใช้รูปแบบต่อไปนี้

1. ข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไปเอง

นี่คือข้อมูลที่เราส่งให้ AI โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์ถาม พิมพ์สั่ง หรือพูดคุยกับระบบ

ตัวอย่าง

ถามว่า “แนะนำร้านอาหารแถวนี้หน่อย”

สั่งว่า “ตั้งนาฬิกาปลุกตอน 6 โมงเช้า”

แม้แต่การพิมพ์ข้อความพูดคุยกับแชทบอทข้อมูลพวกนี้จะถูกนำไปใช้วิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ เพื่อให้ AI ตอบได้ตรงจุดมากขึ้น และในบางกรณี ข้อมูลเหล่านี้อาจถูกนำไปใช้เทรนโมเดลในอนาคต (หากผู้ให้บริการระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัว)

แต่ที่ควรระวังคือ ถ้าเราใส่ข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น เบอร์โทร เลขบัญชี หรือที่อยู่ลงไปโดยไม่ตั้งใจ ข้อมูลเหล่านั้นก็อาจถูกเก็บด้วยเช่นกัน

2. พฤติกรรมการใช้งาน

AI ไม่ได้แค่จดจำสิ่งที่เราพิมพ์เข้าไปเท่านั้น แต่ยังเฝ้าดูว่าเรามีพฤติกรรมการใช้งานแบบไหนอีกด้วย เช่น เราคลิกอะไร ใช้เวลานานเท่าไหร่ในแต่ละหน้า เลือกใช้งานฟีเจอร์ไหนบ่อยที่สุด ชอบค้นหาเรื่องประเภทไหน 

ข้อมูลพฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยให้ AI ปรับตัวเข้าหาเรามากขึ้น เช่น แนะนำเนื้อหาที่ตรงความสนใจ หรือแสดงฟีเจอร์ที่เราน่าจะชอบ

ตัวอย่าง

ถ้าเรามักค้นหาคลิปเกี่ยวกับเทคโนโลยี AI บ่อย ๆ ระบบก็อาจแนะนำคลิปแนวเดียวกันในครั้งถัดไป หรือเปลี่ยนการแสดงผลให้สอดคล้องกับความสนใจของเรา

3. ข้อมูลจากอุปกรณ์ที่เราใช้

นอกจากสิ่งที่เราทำบนแพลตฟอร์มแล้ว AI ยังเก็บข้อมูลพื้นฐานจากตัวอุปกรณ์ด้วย 

• หมายเลข IP (IP address) บอกตำแหน่งที่เราเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
• ประเภทเบราว์เซอร์ เช่น Chrome หรือ Safari 
• ระบบปฏิบัติการ เช่น iOS, Android, Windows
• ภาษาที่ตั้งค่าไว้ในอุปกรณ์
• ตำแหน่งที่ตั้ง (Location) ถ้าเราอนุญาตให้เข้าถึง

ข้อมูลกลุ่มนี้มักถูกใช้เพื่อ ตรวจสอบปัญหาทางเทคนิค เช่น แอปค้าง หรือโหลดไม่ขึ้นในบางอุปกรณ์ เพื่อปรับแต่งประสบการณ์ผู้ใช้ให้เหมาะกับอุปกรณ์ที่ใช้ หรือตรวจจับพฤติกรรมที่อาจเป็นภัย เช่น การเข้าสู่ระบบจากประเทศที่ไม่คุ้นเคย

นอกจากนี้ บาง AI Tools ยังมีการเก็บข้อมูลผู้ใช้งานเพื่อนำไปฝึกโมเดลต่อ เช่น prompt, คำสั่ง หรือไฟล์ที่อัปโหลด ซึ่งก็อาจจะก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว หรือถูกละเมิดลิขสิทธิ์ได้ในอนาคต พี่วัวจึงมีวิธีใช้งาน AI อย่างไรให้ไม่เสี่ยงข้อมูลหลุด ไปดูกันเลย 

5 วิธีใช้งาน AI ให้ปลอดภัย ไม่เสี่ยงข้อมูลหลุด

1. หลีกเลี่ยงการใส่ข้อมูลส่วนตัวหรือความลับสำคัญ 

สิ่งแรกที่ควรระวังคือสิ่งที่คุณป้อนให้ AI ไม่ว่าจะเป็นชื่อ-สกุล เบอร์โทรศัพท์ ข้อมูลทางการเงิน หรือข้อมูลลับภายในบริษัท เพราะหลายแพลตฟอร์มยังไม่มีระบบลบข้อมูลอัตโนมัติหรือให้คุณควบคุมการจัดเก็บได้ 100% การใส่ข้อมูลสำคัญลงไปโดยตรงจึงอาจเสี่ยงเกินไป หากจำเป็นต้องใช้งานร่วมกับข้อมูลภายใน ควรใช้วิธีแทนที่ข้อมูลจริงด้วยชื่อสมมุติ หรือปรึกษานโยบายขององค์กรก่อน

2. ตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริการ AI 

แต่ละแพลตฟอร์ม AI มีนโยบายความเป็นส่วนตัวแตกต่างกัน บางเจ้าระบุชัดเจนว่าจะไม่ใช้ข้อมูลผู้ใช้งานเพื่อฝึกโมเดล แต่บางเจ้าก็ไม่ได้มีคำรับประกันที่ชัดเจนเลย ก่อนเริ่มใช้งาน ควรอ่านเงื่อนไขของแพลตฟอร์มนั้นๆ โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดเก็บและใช้ข้อมูล เช่น ChatGPT, Claude, Gemini หรือ Copilot

3. เลือกใช้ AI ที่มีความน่าเชื่อถือ

ผู้ให้บริการ AI ที่ดีควรมีความโปร่งใสในการแจ้งว่าเก็บข้อมูลผู้ใช้อย่างไร เก็บไว้นานแค่ไหน และมีตัวเลือกให้คุณจัดการข้อมูลย้อนหลังหรือไม่ เช่น สามารถลบประวัติการใช้งานได้หรือเลือกไม่ให้ข้อมูลของคุณถูกใช้เพื่อการเรียนรู้ของโมเดลใหม่ๆ ได้ การเลือกใช้ AI จากผู้ให้บริการที่ชัดเจนในเรื่องนี้ ย่อมช่วยลดความเสี่ยงได้มากกว่าบริการฟรีที่ไม่ระบุอะไรเลย

4. ใช้ AI ผ่านเครือข่ายที่ปลอดภัยเสมอ 

ไม่ว่าจะใช้งานจากคอมพิวเตอร์หรือมือถือ หลีกเลี่ยงการใช้ AI ผ่าน Wi-Fi สาธารณะที่ไม่มีการเข้ารหัส เช่น ในร้านกาแฟ สนามบิน หรือพื้นที่สาธารณะ เพราะข้อมูลของคุณอาจถูกดักจับระหว่างการส่งผ่านอินเทอร์เน็ต หากจำเป็นต้องใช้งานในที่เหล่านี้ ควรเปิดใช้งาน VPN เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับการเชื่อมต่อ

5. ใช้ VPN ทุกครั้งที่ต้องติดต่อกับบริการ AI ออนไลน์ 

VPN (Virtual Private Network) จะเข้ารหัสข้อมูลของคุณก่อนส่งออกไปยังเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์ม AI ทำให้ผู้ไม่หวังดีไม่สามารถดักจับข้อมูลได้ อีกทั้งยังช่วยปิดบัง IP Address ของคุณเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว ที่สำคัญ หากคุณต้องการเข้าถึง AI Tools ที่ยังไม่เปิดให้บริการในประเทศไทย เช่น Claude.ai หรือ Copilot Studio VPN จะช่วยให้คุณเปลี่ยนตำแหน่งเสมือนและใช้งานบริการเหล่านี้ได้ 

โดยเฉพาะหากคุณเป็นผู้ใช้งานมืออาชีพ ฟรีแลนซ์ หรือเจ้าของธุรกิจ การลงทุนใน VPN ที่มีคุณภาพ พี่วัวขอฝาก BullVPN เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เป็นเครื่องมือจำเป็นในการใช้งาน AI อย่างปลอดภัยในระยะยาว เพราะนอกจากจะช่วยให้คุณเชื่อมต่อได้เร็วและเสถียรแล้ว ยังเพิ่มความมั่นใจได้ว่าข้อมูลของคุณจะไม่รั่วไหลออกไปภายนอก